คอนกรีตทนน้ำเค็ม

คุณสมบัติ

ในน้ำเค็มจะมีสารประกอบหลักที่สำคัญคือคลอไรด์ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยโซเดียมคลอไรด์ แมกนีเซียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์ ดังนั้น ในการออกแบบคอนกรีตทนน้ำเค็ม จึงอาศัยหลักการป้องกันการซึมผ่านของสารครอไรด์ และการจับยึด ไม่ให้คลอไรด์เข้าไปทำปฏิกิริยากับเหล็กเสริมจนเป็นสนิม โดยทั่วไป สามารถแบ่งสภาพแวดล้อม การสัมผัสกับบรรยากาศทะเล ของโครงสร้างคอนกรีตได้สี่สภาวะดังนี้
+  สภาวะที่ 1 โครงสร้างสัมผัสกับไอทะเล
+  สภาวะที่ 2 โครงสร้างสัมผัสกับคลื่นชายฝั่ง
+  สภาวะที่ 3 โครงสร้างอยู่ในช่วงน้ำขึ้นน้ำลง
+  สภาวะที่ 4 โครงสร้างจมอยู่ใต้น้ำทะเล
จากสี่สภาวะนี้ สภาวะที่ 2 และ 3 เป็นสภาวะที่คอนกรีตจะเกิดความเสียหายรุนแรงที่สุด ซึ่งลักษณะการเสียหายของคอนกรีตที่สัมผัสกับน้ำเค็ม จะเป็นการเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเป็นสนิมของเหล็กเสริม และเมื่อเหล็กเสริมเป็นสนิม จะเกิดการขยายตัว และทำให้คอนกรีตแตกร้าวเสียหาย ดังนั้นในการออกแบบ จึงต้องกำหนดให้มีค่าอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ที่ต่ำกว่า 0.45 และเลือกใช้วัสดุผสมและสัดส่วนผสมที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่า คอนกรีตทนน้ำเค็มมีคุณภาพดีตามที่ได้ออกแบบ นอกจากนี้ ระยะหุ้มเหล็กเสริมสำหรับงานคอนกรีตโครงสร้าง ที่อยู่ในสภาวะดังกล่าวควรจะไม่น้อยกว่า 7 ซม. ตามข้อกำหนดสำหรับงานออกแบบของวิศวกรรมสถานแห่งชาติ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า โครงสร้างคอนกรีตที่ทำการก่อสร้าง จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ขั้นตอนการทำงาน

คอนกรีตชนิดนี้ ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับโครงสร้างที่สัมผัสกับน้ำทะเล หรือ โครงสร้างที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ค่ากำลังอัดของคอนกรีตมีให้เลือกตั้งแต่ 180-450 กก./ตร.ซม. ที่อายุ 28 วัน สำหรับค่าความยุบตัวสำหรับงานเทคอนกรีตทั่วไป 5.0-10.0 ซม. และสำหรับงานเทคอนกรีตด้วยปั๊ม 7.5-12.5 ซม.

ข้อแนะนำ

1. หลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้างาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว ขณะเทคอนกรีต เกิดปัญหาคอนกรีตเป็นฝุ่นที่ผิวหน้า เกิดปัญหาค่ากำลังอัดต่ำกว่าค่าการรับรอง ปัญหาในเรื่องความสามารถในการต้านทานคลอไรด์ของคอนกรีตลดลง เนื่องจากคอนกรีตมีความทึบน้ำน้อยลง มีความพรุนเพิ่มขึ้น
2. ในระหว่างการเทคอนกรีต ควรมีการลำเลียงคอนกรีตอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยคอนกรีตจากที่สูงเพื่อป้องกันการแยกตัวของคอนกรีต รวมทั้งการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้คอนกรีตเข้าแบบหล่อได้อย่างสมบูรณ์ เป็นเนื้อเดียวกันไม่เกิดรูพรุนเมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้ว ทำให้คอนกรีตมีความทึบน้ำมากขึ้น ส่งผลให้การต้านทานคลอไรด์เพิ่มขึ้น
3. หลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวแล้ว ควรมีการบ่มคอนกรีตที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีต ส่งผลให้ลดปัญหาในเรื่องของ การแตกร้าวของคอนกรีต เนื่องจากการหดตัว และทำให้การพัฒนากำลังอัดคอนกรีตเกิดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คอนกรีตมีความทึบน้ำมากขึ้น ส่งผลให้การต้านทานคลอไรด์เพิ่มขึ้น

concrete-4